วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2559

ความเป็นมาและร่องรอย ทางประวัตศาสตร์ของแท็บเล็ต

ความเป็นมาและร่องรอยทางประวัตศาสตร์ของแท็บเล็ต

จากการศึกษาวิเคราะห์ในเชิงประวัติศาสตร์และหลักฐานต่างๆที่ค้นพบของการใช้เทคโนโลยีประเภทแท็บเล็ต ( Tablet ) นั้นมีข้อสันนิษฐานและกล่าวกันว่าแท็บเล็ตในยุคประวัติศาสตร์ได้เริ่มต้นจากการที่มนุษย์ได้คิดค้นเครื่องมือสาหรับการพิมพ์หรือบันทึกข้อมูลจากแผ่นเยื่อไม้ที่เคลือบด้วยขี้ผึง ( Wax ) บนแผ่นไม้ในลักษณะของการเคลือบประกบกันทั้ง 2 ด้าน ใช้ประโยชน์ในการบันทึกอักขระข้อมูล หรือการพิมพ์ภาพ ซึ่งปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนจากบันทึกของซิเซโร ( Cicero ) ชาวโรมัน ( Roman ) เกี่ยวกับลักษณะของการใช้เทคนิคดังกล่าวนี้จะมีชื่อเรียกว่า “Cerae” ที่ใช้ในการพิมพ์ภาพบนฝาผนังที่วินโดแลนดา ( Vindolanda ) บนฝาผนังที่ชื่อผนังฮาเดรียน ( Hadrian’s Wall )

หลักฐานชิ้นอื่นๆที่ปรากฏจากการใช้แท็บเล็ตยุคโบราณที่เรียกว่า Wax Tablet ปรากฏในงานเขียนบทกวีของชาวกรีก ( Greek )ชื่อโฮเมอร์ ( Homer ) ซึ่งเป็นบทกวีที่ถูกนำไปอ้างอิงไว้ในนิยายปรัมปราของชาวกรีกที่ชื่อว่า Bellerophon โดยแสดงให้เห็นจากการเขียนอักษรกรีกโบราณจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว
ภาพการปรับใช้ Wax Tablet ในรูปแบบชาวโรมัน 



ภาพชาวกรีกโบราณเขียนภาพจากการใช้ Wax Tablet 

นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่บ่งบอกถึงแนวคิดการใช้เทคโนโลยีแท็บเล็ตโบราณในลักษณะของการบันทึกเนื้อหาลงในวัสดุอุปกรณ์ในยุคประวัติศาสตร์คือ ภาพแผ่นหินแกะสลักลายนูนต่ำที่ขุดค้นพบในดินแดนแถบตะวันออกกลางที่อยู่ระหว่างรอยต่อของซีเรียและปาเลสไตน์ เป็นหลักฐานสำคัญที่สันนิษฐานว่าจะมีอายุราวก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 640-615 ทั้งนี้บริเวณที่ขุดค้นพบจะอยู่แถบตะวันตกเฉียงใต้ของพระราชวังโบราณที่ Nineveh ของ Iraq นอกจากนี้ยังได้พบอุปกรณ์ของการเขียน Wax Tablet โบราณของชาวโรมันที่เป็นลักษณะคล้ายแท่งปากกาที่ทาจากงานช้าง ( Ivory ) ซึ่งหลักฐานที่ปรากฏเหล่านี้ต่างเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงวิวัฒนาการและแนวคิดการบันทึกข้อมูลในลักษณะของการใช้ Tablet ในปัจจุบัน


ภาพชาวโรมันใช้ Wax Tablet ในการบันทึกข้อมูล 

สาหรับหลักฐานการใช้ Wax Tablet ยุคต่อมาช่วงยุคกลาง ( Medieval ) ที่พบคือการบันทึกเป็นหนังสือโดยบาทหลวง Tournai ( ค.ศ. 1095-1147 )ชาวออสเตรีย ( Austria ) เป็นการบันทึกบนแผ่นไม้ 10 แผ่น ขนาด 375x207 mm. อธิบายเกี่ยวกับสภาพการถูกกดขี่ของทาสในยุคขุนนางสมัยกลาง

Wax Tablet เป็นกรรมวิธีที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์โดยเฉพาะการบันทึกข้อมูลหรือสิ่งสำคัญต่างๆในเชิงการค้าและพาณิชย์ของพ่อค้าแถบยุโรป จนล่วงมาถึงยุคศตวรรษที่ 19 จึงหมดความนิยมลงไปเนื่องจากมีการพัฒนาเทคนิคการบันทึกข้อมูลรูปแบบใหม่และทันสมัยขึ้นมาใช้




ประวัติความเป็นมาของแท็บเล็ต [ Taplet ]

แท็บเล็ตคืออะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร
แท็บเล็ตคืออะไร ?

แท็บเล็ต ในความหมายด้านไอที คืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีหน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ มีขนาดหน้าจอตั้งแต่ 7 นิ้วขึ้นไป พกพาได้สะดวกเนื่องจากมีน้ำหนักเบา สามารถใช้งานการสัมผัสผ่านปลายนิ้วได้โดยตรง มีแอพพลิเคชั่นมากมายให้เลือกใช้ สามารถใช้งานด้านความบันเทิงได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์ค, ท่องอินเทอร์เน็ต, ถ่ายรูป, ดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกม, วาดรูป หรือแม้กระทั่งใช้ทำงานรับส่ง-อีเมล์หรือจัดการเอกสารออฟฟิต ข้อดีของแท็บเล็ตคือมีหน้าจอที่กว้าง ทำให้มีพื้นที่การใช้งานเยอะกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป และยังมีน้ำหนักเบา พกพาได้สะดวกกว่าโน๊ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ สามารถใช้จดบันทึกหรือใช้เป็นอุปกรณ์เพื่อการศึกษาได้เป็นอย่างดี



แท็บเล็ตถูกสร้างขึ้นเพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่างสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ แต่กว่าจะกลายมาเป็นแท็บเล็ตเช่นทุกวันนี้ก็กินเวลาหลายสิบปี ผ่านช่วงที่เรียกว่า "บททดสอบ" มาหลายครั้ง จนในที่สุดก็กลายมาเป็นสินค้าไอทีที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคไม่แพ้สมาร์ทโฟน และยังมีแนวโน้มจะเติบโตต่อไปเรื่อยๆ


ประวัติความเป็นมาของแท็บเล็ต และการหยิบฉวยไอเดียของ Steve Jobs จนกลายเป็นผู้พลิกเกม
การมาของแท็บเล็ตได้ลบล้างส่วนแบ่งของตลาดเน็ตบุ๊ค หรือเครื่องโน๊ตบุ๊คขนาดย่อส่วนลงอย่างรวดเร็ว และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็กระทบถึงตลาดพีซีที่มียอดขายลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดย Apple iPad ได้รับการยอมรับให้เป็นอุปกรณ์แท็บเล็ตที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด แต่ในความจริงแล้ว แท็บเล็ตไม่ได้เกิดจากไอเดียของ Steve Jobs แต่มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อน ก่อนที่ Apple iPad จะเปิดตัวครั้งแรกในปี 2010


Linus Write-Top (1987)
เป็นหนึ่งในแท็บเล็ตรุ่นแรกๆ ที่สามารถรู้จำลายมือโดยการใช้ปากกาสไตลัสเขียนลงไปบนหน้าจอสีเขียว แต่ยังเป็นหน้าจอแบบเก่า (resistive screen) ที่ใช้แรงดันไฟฟ้าตรวจสอบตำแหน่งที่สัมผัส นับเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติรูปแบบการกดคีย์บอร์ดแป้นพิมพ์แบบเดิมๆ

GRiDPad (1989)
สองปีต่อมาหลังจากนั้น Jeff Hawkins ผู้ก่อตั้งบริษัท Palm Computing ก็ได้สร้างอุปกรณ์ที่มีชื่อเรียกว่า "GRiDPad" ซึ่งรันบนระบบปฏิบัติการ MS-DOS และถูกนำไปใช้ในทางการทหาร แต่อุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เนื่องจากผู้บริโภคมองว่ามันหนัก และมีราคาแพงเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ในยุคนั้น

Apple MessagePad (1993)
MessagePad ถือเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของ Apple ซึ่งเล็งเห็นช่องทางในธุรกิจดังกล่าวและเกิดความพยายามที่จะสร้างอุปกรณ์ประเภทใหม่ที่เรียกว่า "personal digital assistant" หรือ PDA ที่สามารถใช้ดูปฏิทิน กำหนดการนัดหมาย และรายการที่ต้องทำ โดยในขณะนั้นยังมีแอพพลิเคชั่นไม่มากนัก จุดเด่นของอุปกรณ์ประเภทนี้คือมีปากกาสไตลัสที่เขียนลงไปบนหน้าจอและสามารถรู้จำลายมือได้ในระดับหนึ่ง

PalmPilot (1997)
Jeff Hawkins กลับมาเขย่าวงการอีกครั้งด้วยการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ "PalmPilot" ครั้งแรกของเครื่อง PDA ราคาไม่แพง เป็นอุปกรณ์หน้าจอสัมผัสที่ได้รับความนิยมมากในเวลานั้น อุปกรณ์ชิ้นนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้บริโภคต้องการสินค้าชนิดใหม่ที่จะมาเติมเต็มช่องว่างระหว่างโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์แลปท็อป แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานราคาที่ไม่สูงนักและสามารถใช้งานง่าย


Microsoft Tablet PC (2000)
Bill Gates เจ้าพ่อไมโครซอฟต์เองก็เล็งเห็นความสำคัญของสินค้าแท็บเล็ต และได้เปิดตัวแท็บเล็ตต้นแบบในปี 2000 เขาทำนายว่าแท็บเล็ตจะเข้ามาเขย่าวงการไอทีภายใน 5 ปีข้างหน้า แต่การเขย่าวงการของแท็บเล็ต (Apple iPad) เกิดขึ้นจริงในปี 2010 หรืออีก 10 ปีต่อมา

Windows XP tablet
ในปี 2002 Microsoft กังวลในเรื่องส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ต จึงเกิดการผลักดันให้มีการเปิดตัวแท็บเล็ตที่ผลิตโดยบริษัท Fujitsu และบริษัท Compaq โดยทั้งสองรุ่นต่างรันบนระบบปฏิบัติการ Windows XP ของ Microsoft


Motion Computing LS800 tablet (2005)
ในช่วงปี 2005-2006 มีแท็บเล็ตจากผู้ผลิตหลายค่ายถูกส่งลงไปทำตลาด เช่นแท็บเล็ตรุ่น LS800 จาก Motion Computing และแท็บเล็ต Lenovo ThinkPad แต่สินค้าเหล่านี้ก็มีราคาแพงและไม่เป็นที่นิยม ส่วนใหญ่มักจะถูกนำไปใช้ในโรงงานใหญ่ๆ หรือถูกใช้ในการทหารเสียมากกว่า ซึ่ง LS800 เป็นแท็บเล็ตที่เล็กที่สุดในเวลานั้นด้วยขนาดหน้าจอ 8.4 นิ้ว ราคาต่อเครื่องตกประมาณ 68,000 บาท



Apple iPad (2010)
และแล้วในที่สุดก็มาถึงยุคของ Steve Jobs และการปฏิวัติวงการแท็บเล็ตด้วย Apple iPad รุ่นแรกเปิดตัวมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสที่ลื่นไหล ดีไซน์สวยงาม เป็นที่ชื่นชอบของผู้คน แต่ก็มีเสียงค้านมากมายปรามาสว่าสินค้าของ Apple จะล้มเหลวและไม่ประสบความสำเร็จ แต่วันเวลาก็ได้ลบล้างคำสบประมาทดังกล่าวไปอย่างสิ้นเชิง



Samsung Galaxy Tab (2010)
ภายในปีเดียวกันนั่นเอง Samsung Galaxy Tab แท็บเล็ตแอนดรอยด์ก็ปรากฏตัวขึ้น แต่ไม่ได้รับความนิยมในฉับพลันทันที เนื่องจากราคาเปิดตัวในตอนนั้นที่ค่อนข้างสูง (ประมาณ 18,700 บาท) แต่ในที่สุดราคาก็ปรับลดลง



และด้วยความที่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เป็นระบบเปิด ทำให้แท็บเล็ตแอนดรอยด์ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีและเกิดการแข่งขันในตลาดด้วยช่วงราคาที่หลากหลายตั้งแต่รุ่นท็อปยันรุ่นราคาประหยัด


Amazon Kindle Fire (2011)
ที่อเมริกา ยุโรป และประเทศแถบเอเชียบางประเทศเช่นญี่ปุ่น Amazon Kindle Fire ถือเป็นแท็บเล็ตที่จุดประกายไฟให้เห็นถึงความพยายามในการส่งแท็บเล็ตราคาไม่แพงที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ (6,200 บาท) และเป็นการชี้ให้เห็นว่าแท็บเล็ตคุณภาพดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง


Sony S2 / Sony Tablet P (2011)
ในปี 2011 ผู้ผลิตแท็บเล็ตบางค่ายก็เริ่มทดลองทำอะไรแปลกใหม่ และหนึ่งในนั้นคือ Sony Tablet P แท็บเล็ตเครื่องแรกที่มาพร้อมดีไซน์ฝาพับและหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว

Microsoft Surface (2012)
หลังจากที่ห่างหายไปจากวงการแท็บเล็ตหลายปี Microsoft ก็วกกลับเข้ามาในเกมอีกครั้ง เนื่องจากการตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่ถดถอยลงของตลาดพีซีและอนาคตของตลาดแท็บเล็ตที่จะเติบโตขึ้นในภายภาคหน้า โดยแท็บเล็ตของ Microsoft รุ่นแรกที่ออกสู่ตลาดคือ "Surface"



ASUS Padfone 2 (2012)
ASUS เปิดตัว Padfone 2 แท็บเล็ตที่มาพร้อมกับความสามารถในการรวมร่างกับสมาร์ทโฟน


แนวโน้มของแท็บเล็ตในปัจจุบัน-อนาคต
Cisco มีความเชื่อว่า ในปี 2017 ผู้คนจะมีอุปกรณ์ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ไม่น้อยกว่าคนละ 5 เครื่อง เนื่องจากแนวทางของแท็บเล็ตยังคงแข็งแกร่งและตอบโจทย์ผู้บริโภค เชื่อว่าในหน้าประวัติศาสตร์ของอุปกรณ์ไอที แท็บเล็ตจะเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดไม่แพ้คอมพิวเตอร์เลยทีเดียว


ความหมายของแท็บเล็ต

ความหมายของแท็บเล็ต





แท็บเล็ต ( Tablet ) เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กกว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค พกพาง่าย น้าหนักเบา มีคีย์บอร์ด ( keyboard ) ในตัว หน้าจอเป็นระบบสัมผัส ( Touch-screen )ปรับหมุนจอได้อัตโนมัติ แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่าคอมพิวเตอร์พกพาทั่วไป ระบบปฏิบัติการมีทั้งที่เป็น Android IOS และ Windows ระบบการเชื่อมต่อสัญญาณเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีทั้งที่เป็น Wi-Fi และ Wi-Fi + 3G

อาจสรุปในความหมายที่แท้จริงของแท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์กระดานชนวนก็คือ แผ่นจารึกที่เอาไว้บันทึกข้อความต่างๆโดยการเขียนซึ่งมีมานานแล้วในอดีต แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาคอมพิวเตอร์ที่มีการปรับใช้แนวคิดนี้ขึ้นมาแทนที่ ซึ่งจะมีหลายบริษัทที่ได้ให้คำนิยามหรือการเรียกชื่อที่แตกต่างกันออกไปเช่น แท็บเล็ต

แท็บเล็ตพีซี ( Tablet PC : Tablet Personal Computer ) คือเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่สามารถพกพาได้และใช้หน้าจอสัมผัสในการทางาน ออกแบบให้สามารถทางานได้ด้วยตัวมันเอง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ภายหลังจากทาง Microsoft ได้ทาการเปิดตัว Microsoft Tablet PC ในปี 2001 แต่หลังจากนั้นก็เงียบหายไปและไม่เป็นที่นิยมมากนัก

แท็บเล็ตพีซี ( Tablet PC ) ไม่เหมือนกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือ Laptops ตรงที่จะไม่มีแป้นพิมพ์ในการใช้งาน แต่จะใช้แป้นพิมพ์เสมือนจริงในการใช้งานแทน Tablet PC จะมีอุปกรณ์ไร้สายสาหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและระบบเครือข่ายภายใน มีระบบปฏิบัติการทั้งที่เป็น Windows และ Android



ภาพ HP Compaq Tablet PC ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 


แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ ( Tablet Computer / Tablet ) หรือที่เรียกชื่อสั้นๆว่า “แท็บเล็ต” คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ขณะเคลื่อนที่ได้ มีขนาดกลางกะทัดรัดและใช้หน้าจอสัมผัสในการทางานเป็นลาดับแรก มีคีย์บอร์ดเสมือนจริง หรือปากกาดิจิตอลในการใช้งานแทนที่แป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ด และมีความหมายครอบคลุมไปถึงโน๊ตบุ๊คแบบ Convertible ที่มีหน้าจอแบบสัมผัสและมีแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดเสมือนจริงติดมาด้วย

แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ ( Tablet Computer หรือ Tablet ) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปจะถูกผลิตขึ้นมาโดยบริษัทที่เป็นยักษ์ใหญ่ของเครื่องคอมพิวเตอร์คือ Apple ซึ่งเป็นผู้ผลิต “ไอแพด ( iPad )” ขึ้นมาและเรียกอุปกรณ์ของตัวเองว่าเป็น “แท็บเล็ต ( Tablet )”



ภาพ Apple iPad 


นอกจากบริษัท Apple ซึ่งเป็นค่ายยักษ์ใหญ่ของการผลิตแท็บเล็ตประเภท iPad จนเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปแล้ว ปัจจุบันแท็บเล็ต ( Tablet PC ) ได้ผลิตขึ้นมาในหลากหลายบริษัทสาหรับการแข่งขันทางธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีรูปแบบและมีศักยภาพในการปรับใช้ที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ความต้องการของผู้ใช้ เช่นบริษัท Samsung , ASUS , Black Berry , Toshiba เหล่านี้เป็นต้น เหตุผลสำคัญที่แท็บเล็ต ( Tablet PC ) กาลังเป็นที่นิยมในขณะนี้เนื่องมาจากคุณประโยชน์อันหลากหลายและรูปแบบที่ทันสมัย พกพาได้สะดวกสบาย ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายเช่นใช้ต่ออินเทอร์เน็ตได้ ถ่ายรูปได้ เป็นแหล่งค้นคว้าหาความรู้ ตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ( e-Book ) ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้สื่อชนิดนี้เป็นสำคัญ

ความแตกต่างระหว่าง Tablet PC กับ Tablet Computer 

เริ่มแรก Tablet PC จะใช้หน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ที่ใช้สถาปัตยกรรม x86 ของ Intel เป็นพื้นฐานและมีการปรับแต่งนำเอาระบบปฏิบัติการหรือ OS ของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ Personal Computer : PC มาทาให้สามารถใช้จากการสัมผัสทางหน้าจอในการทางานได้ และใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 หรือ Linux

ต่อมาในปี 2010 ได้มีการพัฒนาแท็บเล็ตที่แตกต่างจากแท็บเล็ตพีซี ( Tablet PC ) ขึ้นมาโดยไม่มีการยึดติดกับระบบปฏิบัติการเดิม แต่ได้พัฒนาปรับใช้ระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์เคลื่อนที่ ( Mobile Telephone ) ได้แก่ iOS และ Android แทน นั่นก็คือ “แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ ( Tablet Computer )” หรือที่เรียกสั้นๆว่า “แท็บเล็ต ( Tablet )” ในปัจจุบันนั่นเอง ปัจจุบันบริษัทแอปเปิล ( Apple ) ได้ผลิต iPad ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์รูปแบบใหม่ ( Tablet ) ซึ่งมีโครงสร้างรูปลักษณ์เป็นแผ่นบางๆขนาด 9 นิ้ว ไม่มีแป้นคีย์บอร์ด ( Keyboard ) ไม่มีเม้าส์ ( Mouse ) สามารถสั่งงานด้วยระบบการใช้นิ้วสัมผัสบนจอภาพ ( Touch Screen )

หรือจะใช้การป้อนข้อมูลด้วยคีย์บอร์ดที่แสดงบนจอภาพได้มีน้าหนักเบาเพียง 700 กรัม หรือประมาณ 1 ใน 3 ของโน๊ตบุ๊คทั่วไป สามารปิดเปิดได้ทันทีโดยกดปุ่มเดียว ใช้งานได้ต่อเนื่องนานกว่า 10 ชั่วโมง ใช้ระบบปฏิบัติการเฟริ์มแวร์ หรือ iOS

ภาพรูปแบบโครงสร้างภายนอกของแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ ( Tablet ) ทั่วไป

แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา

แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา



นโยบายภาครัฐโดยเฉพาะด้านการจัดการศึกษาของรัฐบาลปัจจุบัน ( นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ) ที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2554 โดยเฉพาะนโยบายด้านการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทัดเทียมกับนานาชาตินั้น เป็นนโยบายที่มีความสำคัญยิ่ง โดยรัฐบาลได้กาหนดแนวนโยบายที่ชัดเจนเพื่อเร่งพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้เป็นเครื่องมือยกระดับคุณภาพและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้มีระบบการเรียนแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติเป็นกลไกในการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและเอื้อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีพ พัฒนาเครือข่ายและพัฒนาระบบ “ไซเบอร์โฮม ( Cyber Home )” ที่สามารถส่งความรู้มายังผู้เรียนโดยระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ส่งเสริมให้นักเรียนทุกระดับชั้นใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ( Tablet ) ขยายระบบโทรทัศน์เพื่อการศึกษาให้กว้างขวาง ปรับปรุงห้องเรียนเพื่อให้ได้มาตรฐานห้องเรียนอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเร่งดำเนินการให้กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาสามารถดาเนินการได้

ดังนั้นจะเห็นได้ชัดเจนว่าแนวนโยบายของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาเป็นปัจจัยและเป็นมิติสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาให้ก้าวสู่ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของสังคมโดยรวม และจะเป็นมิติของการสร้างกระบวนทัศน์เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของระบบการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญภายใต้การศึกษาในยุคปฏิรูปในทศวรรษที่สองในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันกับแนวนโยบายของการจัดการศึกษาโดยภาครัฐที่กล่าวในเบื้องต้นนั้น “แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ( Tablet for Education )”จึงกลายเป็นเครื่องมือด้านสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่สำคัญและมีอิทธิพลค่อนข้างมากต่อการปรับใช้ในการสร้างมิติแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการจัดการศึกษาไทยในปัจจุบันในยุคสังคมสารสนเทศและอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งแนวนโยบายของรัฐบาลมุ่งเน้นที่จะใช้สื่อแท็บเล็ตให้ผู้เรียนทุกคนได้เรียนรู้ตามศักยภาพและความพร้อมที่มีอยู่ โดยที่นโยบายของการปฏิบัติกับนักเรียนช่วงแรกตามโครงการ One Tablet PC Per Child จะมุ่งเน้นไปที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวนประมาณ 539,466 คนเป็นกลุ่มเป้าหมายนำร่องที่สำคัญของการนำสื่อแท็บเล็ตสู่การพัฒนาการเรียนรู้ในครั้งนี้

อย่างไรก็ตามการที่จะนำเอานวัตกรรมเทคโนโลยีอะไรมาใช้กับกลุ่มคนในปริมาณหรือจำนวนมากนั้น ย่อมมีประเด็นสำคัญหลากหลายที่บังเกิดขึ้นทั้งในแง่บวกและลบ ซึ่งจะเป็นทรรศนะหรือเป็นมุมมองหรือผลจากการศึกษาวิจัยที่มีต่อสื่อนวัตกรรมที่นำมาใช้ซึ่งในที่นี้ก็หมายถึงแท็บเล็ตเพื่อการศึกษานั่นเอง
ในสังคมยุคปัจจุบันซึ่งเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ( Learning Society ) ในปัจจุบันนั้น สื่อและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาจะมีบทบาทสำคัญค่อนข้างมากต่อการนำมาใช้ในการพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพทางการเรียนในสังคมยุคใหม่ในปัจจุบันที่สื่อการศึกษาประเภท “คอมพิวเตอร์ ( Computer )”จะมีอิทธิพลค่อนข้างสูงในศักยภาพการปรับใช้ดังกล่าว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาไทยตามนโยบายการแจกแท็บเล็ตเพื่อเด็กนักเรียนในปัจจุบันโดยมุ่งเน้นให้กลุ่มนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามโครงการ One Tablet PC Per Child ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่แถลงไว้นั้น เป็นการสร้างมิติใหม่ของการศึกษาไทยในการเข้าถึงการปรับใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในยุคปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ( นายวรวัจน์ เอื้ออภิญกุล ) ได้กล่าวไว้ว่าการจัดหา

เครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียนโดยเริ่มดาเนินการในโรงเรียนนำร่องสาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2555 ควบคู่กับการพัฒนาเนื้อหาสาระที่เหมาะสมตามหลักสูตรบรรจุลงในคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต รวมทั้งจัดระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายในระดับการใช้ การบริหารและในพื้นที่สาธารณะและสถานศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการตามที่กล่าวในเบื้องต้น เป็นแนวคิดที่จะนำเอาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษามาประยุกต์ใช้กับการเรียนรู้ของนักเรียนในรูปแบบใหม่โดยการใช้แท็บเล็ต ( Tablet ) เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้และแสวงหาองค์ความรู้ในรูปแบบต่างๆที่มีอยู่ในรูปแบบทั้ง Offline และ Online ทาให้ผู้เรียนมีโอกาสศึกษาหาความรู้ ฝึกปฏิบัติ และสร้างองค์ความรู้ต่างๆได้ด้วยตัวเอง ซึ่งการจัดการเรียนการสอนในลักษณะดังกล่าวนี้ได้เกิดขึ้นแล้วในต่างประเทศ ส่วนในประเทศไทยมีการจัดการเรียนการสอนทั้งประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษาในบางแห่งเท่านั้น

ประเด็นที่กล่าวถึงนี้อาจสรุปได้ว่าศักยภาพของสื่อและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาประเภทคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ( Tablet PC )ที่เริ่มมีความสำคัญและมีอิทธิพลต่อผู้ใช้ในทุกรดับในสังคมสารสนเทศในปัจจุบัน เนื่องจากในยุคแห่งสังคมออนไลน์หรือยุคเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์นั้น สื่อเทคโนโลยีประเภทแท็บเล็ตเพื่อการศึกษานี้จะมีศักยภาพในการปรับใช้ค่อนข้างสูงและปรากฏชัดในหลากหลายปัจจัยที่สนับสนุนเหตุผลดังกล่าว



แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา

คุณลักษณะสำคัญของแท็บเล็ต (Tablet PC)
เนื่องจากสื่อแท็บเล็ต ( Tablet PC ) จะมีคุณลักษณะสำคัญดังนี้

• สนองต่อความเป็นเอกัตบุคคล ( Individualization ) เป็นสื่อที่สนองต่อความสามารถในการปรับตัวเข้ากับความต้องการทางการเรียนรู้ของรายบุคคล ซึ่งความเป็นเอกัตภาพนั้นจะมีความต้องการในการติดตามช่วยเหลือเพื่อให้ผู้เรียนหรือผู้ใช้บรรลุผลและมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ตามที่เขาต้องการ

 เป็นสื่อที่ก่อให้เกิดการสร้างปฏิสัมพันธ์อย่างมีความหมาย ( Meaningful Interactivity ) ปัจจุบันการเรียนรู้ที่กระบวนการเรียนต้องมีความกระตือรือร้นจากการใช้ระบบข้อมูลสารสนเทศและการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันจากสภาพทางบริบทของสังคมโลกที่เป็นจริง บางครั้งต้องอาศัยการจำลองสถานการณ์เพื่อการเรียนรู้และการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งสถานการณ์ต่างๆเหล่านี้สื่อแท็บเล็ตจะมีศักยภาพสูงในการช่วยผู้เรียนเกิดการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ได้

 เกิดการแบ่งปันประสบการณ์ ( Shared Experience ) สื่อแท็บเล็ตจะช่วยให้นักเรียนเกิดการแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ซึ่งกันและกันจากช่องทางการสื่อสารเรียนรู้หลากหลายช่องทาง เป็นลักษณะของการประยุกต์การเรียนรู้ร่วมกันของบุคลในการสื่อสารหรือสื่อความหมายที่มีประสิทธิภาพ

 มีการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ที่ชัดเจนและยืดหยุ่น ( Flexible and Clear Course Design ) ในการเรียนรู้จากสื่อแท็บเล็ตนี้จะมีการออกแบบเนื้อหา หรือหน่วยการเรียนรู้ที่เสริมสร้าง หรืออานวยความสะดวกให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และเกิดการพัฒนาทางสติปัญญา อารมณ์ความรู้สึก ซึ่งการสร้างหน่วยการเรียนรู้ต้องอยู่บนพื้นฐานและหลักการที่สามารถปรับยืดหยุ่นได้ ภายใต้วัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่ชัดเจนซึ่งตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้ในเชิงเนื้อหาได้แก่การเรียนจาก e-Book เป็นต้น

 ให้การสะท้อนผลต่อผู้เรียน/ผู้ใช้ได้ดี ( Learner Reflection ) สื่อแท็บเล็ตดังกล่าวจะสามารถช่วยสะท้อนผลความก้าวหน้าทางการเรียนรู้จากเนื้อหาที่เรียน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถปรับปรุงตนเองในการเรียนรู้เนื้อหาสาระ และสามารถประเมินและประยุกต์เนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

• สนองต่อคุณภาพด้านข้อมูลสารสนเทศ ( Quality Information ) เนื่องจากสื่อดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูงต่อผู้เรียนหรือผู้ใช้ในการเข้าถึงเนื้อหาสาระของข้อมูลสารสนเทศที่มีคุณภาพ ซึ่งข้อมูลเชิงคุณภาพจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนถูกต้องในการกาหนดมโนทัศน์ที่ดี อย่างไรก็ตามการได้มาซึ่งข้อมูลเชิงคุณภาพ ( Quality ) ย่อมต้องอาศัยข้อมูลในเชิงปริมาณ ( Quantity ) เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ต้องมีการจัดเก็บรวบรวมไว้ให้เพียงพอและถูกต้องสมบูรณ์

ได้มีบทสรุปจากการศึกษาวิจัยของ Becta ICT Research ซึ่งได้ศึกษาผลการใช้แท็บเล็ตพีซีประกอบการเรียนการสอนในโรงเรียนระดับประถมศึกษาจำนวน 12 โรงเรียนในประเทศอังกฤษช่วงระหว่าง ค.ศ. 2004-2005 ซึ่งมีผลการศึกษาสำคัญหลายประการที่ควรพิจารณาและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับบริบทด้านการศึกษาของไทยโดยสามารถสรุปผลลัพธ์สาคัญจากการศึกษาดังกล่าวได้ ดังนี้

การใช้แท็บเล็ต ( Tablet PC ) โดยให้ผู้เรียนและผู้สอนมีแท็บเล็ตพีซีเป็นของตนเองอย่างทั่วถึง เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการใช้งานอย่างมีประสิทธิผล โดยพบว่าการใช้แท็บเล็ตพีซีช่วยเพิ่มแรงจูงใจของผู้เรียนและมีผลกระทบในทางบวกต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรียน รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้นคว้าและการเข้าถึงองค์ความรู้นอกห้องเรียนอย่างกว้างขวาง รวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของผู้เรียน

สำหรับในด้านหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนนั้นพบว่า การใช้แท็บเล็ตพีซีนั้นช่วยส่งเสริมให้มีการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน และส่งเสริมให้มีการพัฒนาหลักสูตรหรือการจัดการเรียนการสอนที่มีเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นส่วนประกอบมากขึ้น อย่างไรก็ตามการสร้างให้เกิดผลสำเร็จดังกล่าวนั้น ต้องอาศัยปัจจัยสนับสนุนและการจัดการในด้านต่างๆจากผู้บริหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนให้มีเครือข่ายสื่อสารแบบไร้สาย ( Wireless Network ) และเครื่องฉายภาพแบบไร้สาย( Wireless Data Projector )ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถสร้างและใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งควรจัดให้มีการวางแผนจัดหาทรัพยากรมาสนับสนุนอย่างเป็นระบบ ซึ่งท้ายที่สุดจะพบว่าการใช้แท็บเล็ตพีซีนั้น จะสามารถสร้างให้เกิดประโยชน์ที่หลากหลายและมีความคุ้มค่ามากกว่าการใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ทอป ( Desktop ) และคอมพิวเตอร์แล็บทอป ( Laptop ) ประกอบการเรียนการสอนที่มีใช้งานกันอยู่ในสถานศึกษาโดยทั่วไป

สาหรับในประเทศไทยนั้น ขณะนี้สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มอบให้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒทางการศึกษาวิจัยรูปแบบการใช้แท็บเล็ตเพื่อการเรียนการสอน ทั้งนี้เพื่อเตรียมการสาหรับการประกาศใช้จริงในปีการศึกษา 2555 นี้ ผลสรุปจากการวิจัยยังไม่เกิดขึ้นในช่วงนี้ แต่อย่างไรก็ตามก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมในหลากหลายมุมมองทั้งในเชิงที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งก็คงต้องติดตามดูผลการนำไปใช้จริงกับผู้เรียนและครูตามจำนวนและตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดต่อไป

10 ประโยชน์หลักของแท็บเล็ต [ Taplet ]

10 เหตุผลที่บอกว่าคุณควรจะหา Tablet มาใช้ในชีวิตประจำวันได้แล้ว
ในปัจจุบันเชื่อว่าทุก คนที่อ่านบทความนี้อยู่คงจะมีสมาร์ทโฟนคู่ใจกันอยู่แล้ว แต่การใช้งานบางอย่างก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้บนอุปกรณ์อื่นอยู่ (ด้วยข้อจำกัดหลายประการที่สมาร์ทโฟนอาจยังไม่ตอบโจทย์) และต่อไปนี้คือ 10 เหตุผลที่ว่าทำไมคุณถึงควรที่จะหา Tablet มาคู่ใจซักตัว

tablet หน้าจอใหญ่

1.หน้าจอใหญ่
ขึ้นชื่อว่า Tablet ย่อมต้องมาพร้อมกับขนาดหน้าจอใหญ่เป็นธรรมดา ซึ่งหน้าจอที่ใหญ่นี้ให้ประสบการณ์ที่เต็มตาในการรับชมภาพยนตร์ (Galaxy NotePRO มีขนาดใหญ่ถึง 12.2 นิ้ว) หรือแม้กระทั่ง VDO Call หาคนที่เราคิดถึง และถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟนบางรุ่นอาจมีหน้าจอความละเอียดสูงกว่า Tablet แต่หากวัดประสบการณ์การใช้งานกันจริง ๆ แล้ว หน้าจอใหญ่ยังไงก็ฟินกว่าอย่างแน่นอน

2.แบตเตอรี่เยอะ
ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าทำให้สามารถใส่แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น สมาร์ทโฟนทั่วไปมีความจุแบตเตอรี่เพียง 2,000-3,000 mAh ในขณะที่ Tablet ของ Samsung Galaxy มีความจุแบตเตอรี่เฉลี่ยสูงถึง 5,000-8,000 mAh คงไม่ต้องสงสัยแล้วว่าอุปกรณ์ไหนจะใช้งานได้นานกว่ากัน?

แท็บเล็ตแบตทน

3.ให้ประสบการณ์ที่แตกต่าง
ถึงแม้ว่าจะเป็นเกมเดียวกัน แต่ถ้าหากเล่นบนสมาร์ทโฟน, โน้ตบุ๊ก หรือ Tablet ย่อมให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันอย่างแน่นอน หากไม่เชื่อลองดาวน์โหลดเกม Fruit Ninja มาเล่นดูสิ !!!

ข้อดีของแท็บเล็ตคือใช้งานง่าย

4.เหมาะกับการอ่านอย่างจริงจัง
หากคุณเป็นคนที่ชอบอ่าน E-Book หรือเว็บไซต์เป็นชีวิตจิตใจ คุณจะพบว่าบนสมาร์ทโฟนนอกจากจะตัวหนังสือเล็กแล้ว ยังมีการตัดบรรทัดที่ไม่สวยงาม ทำให้ต้องคอยเลื่อนหน้าจอกันบ่อยๆจนตาลาย แต่ถ้าหากได้ลองอ่านบน Tablet แล้วจะพบว่ามันอ่านง่ายกว่ากันเยอะเลย ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน

5.แอปพลิเคชั่นเยอะกว่า
หลายคนอาจสงสัยว่าแอปพลิเคชั่นจะเยอะกว่าได้อย่างไร ... ในเมื่อใช้ Play Store เดียวกัน แต่ความจริงคือบน Tablet สามารถใช้งานได้ทั้ง Mobile App และ Tablet App ส่วนสมาร์ทโฟนสามารถใช้ได้แค่ Mobile App อย่างเดียว และนอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชั่นเฉพาะทางอีกหลากหลายตัว ที่ไม่สามารถหาได้บน Mobile App


แท็บเล็ต Samsung สามารถใช้แทนโน้ตบุคได้

6.ใช้งานแทนโน้ตบุ๊กได้
บางครั้งคุณอาจจำเป็นต้องแก้ไขไฟล์เอกสารสำคัญเป็นหน้า ๆ หรือจำเป็นต้องนั่งทำงานทั้งวันโดยไม่มีคอมพิวเตอร์ มันง่ายกว่ามากเพียงแค่หาคีย์บอร์ดบลูทูธซักตัวมาต่อแล้วใช้งานมันแทนโน้ตบุ๊กซะ!

7.ไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสาร
คงไม่มีใครที่จะกล้าใช้สมาร์ทโฟนจนกระทั่งแบตเตอรี่หมด เพราะหากเป็นอย่างนั้นคุณจะไม่สามารถติดต่อใครได้เลย ถ้าหากแยกอุปกรณ์ไปต่างหากเลยก็ช่วยให้เราใช้งานได้อย่างสบายใจ อีกอย่างเวลาเอาเครื่องไปให้เจ้าตัวเล็กยืมเล่นเกม ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสายเข้าอีกด้วย


ข้อดีของแท็บเล็ตคือเหมาะกับการใช้นำเสนอ

8.เหมาะที่จะใช้นำเสนอ
ในการประชุมกลุ่มย่อย 4-5 คน คุณอาจเลือกใช้ Tablet แทนโน้ตบุ๊กเพื่อความคล่องตัว และมันคงดูไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าหากคุณนำเสนอไอเดียสุดบรรเจิดของคุณให้เพื่อนร่วมงาน หรือเอาไปนำเสนอลูกค้าผ่านหน้าจอเล็ก ๆ บนสมาร์ทโฟน

แท็บเล็ตยี่ห้อไหนดี ต้องมีการทำงานได้แบบหลายหน้าจอ

9.การทำงานแบบหลายหน้าจอ
ทุกคนคงเคยชินกับการทำงานแบบหลายหน้าจอ (Multitask) ที่อยู่บน PC เพื่อที่จะทำงานไปด้วยพร้อมกับหาข้อมูลไปพร้อม ๆ กัน (หรืออาจเปิดใช้งานแอปฯ อื่นไปด้วย) และถึงแม้ว่า Samsung Galaxy หลายรุ่นจะรองรับความสามารถนี้ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าจะให้ดีใช้บน Tablet ฟินกว่าเยอะ!



แท็บเล็ต Samsung เป็นที่จดบันทึกการทำงานอย่างง่าย

10.จดบันทึกการทำงานอย่างสมาร์ท
Tablet ในบางรุ่นออกแบบมาเพื่อรองรับการเขียนโดยเฉพาะ อย่างรุ่น Galaxy Note 8 หรือ Galaxy Tab A with Pen ที่มีปากกา S Pen ช่วยในการวาดให้เข้าใจง่ายขึ้น พื้นที่รองรับการวาดขนาดใหญ่ ช่วยให้การเขียนของคุณต่อเนื่องไม่มีสะดุด


องค์ประกอบของ Tablet PC

ไม่ว่าจะเป็นแบบหรือแบรนด์ของยี่ห้อใด องค์ประกอบพื้นฐานจริง จะประกอบด้วยสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้

1.ระบบปฎิบัติการ
Tablet PC ก็เหมือนคอมพิวเตอร์ทั่วๆไปที่ต้องมีระบบปฎิบัติการ(Microsoft Windows) แต่ของ Tablet PC ก็จะมีระบบปฎิบัติการเฉพาะเช่นกัน ซึ่งระบบปฎิบัติการมีหลากหลายระบบ ที่ Tablet PC ต่างเลือกใช้
ระบบ iOSiOS เป็นระบบปฎิบัติการของ Apple โดย iOS นั้นมีทั้งบน iPhone, iPod Touch และ iPad แต่ทั้ง 3 ตัวมีวัตถุประสงค์การใช้งานต่างกันไปอย่างชัดเจน โดย iPad นั้น apple กำหนดให้เป็น Tablet ที่ใช้งานด้านการเล่นเน็ต, เปิดไฟล์, ดูหนังฟังเพลง, อ่าน E-Book เป็นหลัก ด้ ซึ่ง iOS มีจุดเด่นทั้งเรื่องความเร็ว, การตอบสนองของโปรแกรม, โปรแกรมและเกม ที่รองรับ iOS มีให้เลือกลงได้มากกว่า 350,000 โปรแกรมโดยสรุปนั้น iOS เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานด้านความบันเทิงเป็นหลัก รวมถึงมีโปรแกรมสนับสนุนให้เลือกใช้(และเสียเงิน)ที่มีมาก
Android OSAndroid OS ถือได้ว่ามีระดับความนิยมที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอันมีผลมาจาก(1) Android OS เป็นซอฟต์แวร์แบบ Open Source ที่ทำให้มีผู้นำไปพัฒนาต่อยอดได้ (2) Google ให้การสนับสนุน และ (3) หลายค่ายให้ความสนใจคว้าไปใส่ในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ทำให้มีผลิตภัณฑ์ในตลาดค่อนข้างมาก จุดนี้จึงกลายมาเป็นจุดแข็งของ Android อีกจุดหนึ่ง ที่กำลังไล่ตาม Apple มาติดๆ
Windows OSWindows ถือเป็น OS ระดับตำนานที่ครั้งนึงเป็นผู้บุกเบิกนำ Windows จับมาใส่บน Tablet PC แต่กลับไม่ได้รับความนิยม จนต้องหยุด แต่ Windows สำหรับ Tablet PC ไม่ได้ตายสนิท จะพบว่ากระแสข่าวของ Windows จะกลับมาโลดแล่นบน Tablet PC อีกครั้ง
Symbian OSSymbiam คือ ระบบปฏิบัติการประเภท Opensource เช่นเดียวกับ Andriod เป็นระบบปฎิบัติการ ที่ใช้งานบนโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะของ Nokia ส่วนใน Tablet PC ในปี 2555 นี้ Symbian คงเป็นอีก OS ที่จะเข้ามาร่วมวงด้วยแน่


เพื่อความเข้าใจในเรื่องระบบปฏิบัติการของแท็บเล็ตที่ดีขึ้นเรามาศึกษาวิดีทัศน์จากรายการ โทรทัศน์ครู ชุด"แท็บเล็ต" 




โดยสรุปแล้ว ณ วันนี้ ในด้านระบบปฎิบัติการก็ยังคงมีแค่คู่ฟัดตลอดกาลระหว่าง iOS และ Andriod OS ที่จะต้องตู่สู่ในสนาม Tablet PC กันอีกยาวนาน

2.ขนาดและรูปฟอร์ม
ปัจจุบัน Tablet PC มีขนาดที่แบ่งออกเป็นกลุ่ม หลักๆ อยู่ 3 กลุ่ม คือ  กลุ่ม 5 นิ้ว, กลุ่ม 7 นิ้ว และกลุ่ม 10 นิ้ว โดย iPad ของ Apple ซึ่งปัจจุบันยังคงสร้างด้วยมาตรฐานบนขนาดประมาณ 9 นิ้ว ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่ม 10 นิ้ว ด้วย  แต่ด้วยกลยุทธ์การตลาดของบางแบรนด์ได้ออกรุ่นที่มีขนาดอื่นๆออกมา เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด ซึ่งขนาดที่แยกย่อยเหล่านี้ อาจดูโดดเด่นในระยะเวลาหนึ่ง แต่ระยะเวลาคงอยู่ในตลาดก็เป็นเรื่องที่น่านำมาพิจารณาว่าจะยังคงยึดติดในตลาดได้ยาวนานเพียงใด เพราะจะส่งผลถึงชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับการซ่อมแซม รวมไปถึง accessories อุปกรณ์สนับสนุนโดยเฉพาะตัว case หรือกระเป๋าที่อาจจะหาไม่ได้ 





ข้อสังเกตุ
iPad ของ Apple จะเป็นแบรนด์ที่มีความคงทน ทั้งในตัวสินค้าและaccessories อุปกรณ์สนับสนุนทุกชนิด




3.กล้อง
 นับเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ Tablet มีกระแสตอบรับในผู้บริโภคไอที เพราะเป็นส่วนช่วยให้การติดต่อสื่อสารในโลกออนไลน์มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน กล้องมาตรฐานที่มีมาใน Tablet PC จะมีอยู่ 2 ตัว ที่เรียกว่ากล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลัง
กล้องด้านหน้า(1) มีไว้เพื่อการเชื่อมต่อในการสนทนา ความละเอียดไม่สูงมากนัก 0.3 - 2 MP
กล้องด้านหลัง(2) มีจุดประสงค์หลักในการถ่ายภาพเป็นการเฉพาะ จึงมีความละเอียดค่อนข้างสูง อยู่ระหว่าง 3-5 MP พร้อม flash ในตัว




4.การเชื่อมต่อเครือข่าย
ลักษณะการใช้งานโดยทั่วไปแล้ว Tablet PC จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม นั่นก็คือ
แบบที่มีการเชื่อมต่อเฉพาะ WiFi
แบบที่เชื่อมต่อทั้ง WiFi และโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G (ซึ่งสามารถเชื่อต่อระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง นอกจากนี้ ในบางรุ่นยังรองรับการโทรศัพท์ได้ด้วย ซึ่งการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรศัพท์ผู้ซื้อต้องพิจารณาให้ดีด้วยเพราะแต่ละเครื่องอาจจะรองรับไม่ครบทุกระบบ) 
Tablet PC ทุกเครื่องทุกแบรนด์จะต้องสนับสนุนการเชื่อมต่อแบบไร้สาย (IEEE 802.11 b/g/n)รวมถึง Bluetooh ไม่ว่าจะเป็น 2.x หรือ 3 นอกจากนี้ยังต้องมี GPS ด้วย

5.เชื่อมต่อเสริมอุปกรณ์อื่น
นอกจากส่วนเชื่อมต่อระบบชาร์จไฟแล้ว ก็จะมีส่วนเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกเครื่อง ได้แก่ 
ช่องต่อสำหรับหูฟัง (3.5 mm Audio headphone jack)
ช่องต่อสัญญาณแบบ (mini) HDMI สามารถนำภาพออกผ่านสาย HDMI ได้เลย
ช่องต่อสาย USB บางรุ่นสามารถนำ Flash Drive หรือ External Harddisk มาต่อได้โดยตรง บางรุ่นต้อง Adapter แปลงหัว 20 หรือ 30 Pin มาแปลงเป็น USB
ช่องต่อส่วนการอ่าน media card
สำหรับรุ่นที่เชื่อมสัญญาณโทรศัพท์ก็จะมีช่องใส่ SIM card เพื่อโทรออก หรือต่ออินเทอร์เน็ต
ส่วนเชื่อมต่อช่องเสียบ Micro SD Card
แต่ Tablet PC ที่มีการผลิตก็จะถูกออกแบบมา ใน 2 ลักษณะคือ
5.1 แบบเชื่อมต่อโดยตรง ซึ่ง Tablet PC กลุ่มนี้จะมีความพร้อมในการใช้งานมากกว่า แต่ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัวโครงสร้างมีขนาดค่อนข้างหนาสักนิด ดังตัวอย่าง ด้านล่าง




5.2 อีกแบบที่คงเอกลักษณ์ด้านความบาง ทำให้การออกแบบโครงสร้าง(body) ต้องลดช่องการเชื่อมต่อ หลายๆ อย่างออกไป แต่การเชื่อมต่อ เป็นเรื่องจำเป็น จึงต้องพึ่งพาอุปกรณ์เชื่อมต่อกลางที่เรียกว่า adapter ซึ่งเมื่อนำมาต่อใช้งานก็ค่อนข้างดูไม่เรียบร้อย ซึ่งลักษณะแบบนี้ที่เห็นได้ชัดเจนก็มี Galaxy Tab รวมถึง iPad ของ Apple ด้วย






 6.หน่วยประมวลผล
นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งของ Tablet PC ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการพัฒนาความแรง เร็วในการประมวลผล ส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ไวขึ้น สำหรับหน่วยประมวลผล จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
6.1 CPU
หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU ถูกพัฒนาความเร็ว มาหลายระดับตั้งแต่ 800 MHz ปัจจุบัน (มกราคม 2555) มีความเร็วในระดับ 1.5 GHz dual core
สำหรับ CPU ที่ใช้ใน Tablet PC มีหลากหลายรุ่น อาทิ
ARM Cortex A8 แบบ Single Core ความเร็ว 1.0 GHz,
Allwinner A10 แบบ Single Core ความเร็ว 1.2 GHz
Oak Trail chip แบบ Single Core ความเร็ว 1.5 GHz
Apple A5 แบบ Dual Core ความเร็ว 1.0 GHz
ARM Cortex A9 แบบ Dual Core ความเร็ว 1.5 GHz
AMD C-50 แบบ Dual Core ความเร็ว 1.0 GHz
nVidia Tegra 2 Dual Core ความเร็ว 1.0 GHz
Intel Atom N450 Single Core ความเร็ว 1.0 GHz
Intel Atom N550 Dual Core ความเร็ว 1.0 GHz
และในปลายปี 2555 CPU ระดับ Quad core ก็จะมีใน Tablet PC ในหลายแบรนด์





6.2 Graphic Core
เป็นหน่วยประมวลผลกราฟิกเพื่อแสดงข้อมูลออกมาบนจอภาพ เป็นอีกสิ่งที่มีการพัฒนาทำให้การแสดงผลมีความละเอียด ตอบสนองในการแสดงผลที่ resolution ระดับ HD ปัจจุบันมี graphic core ที่ใช้ใน Tablet ดังนี้
PowerVR SGX535 ของ intel
AMLogic 8726-M
ATI Radeon HD 6250
Mali-400 OpenGL ES2.0/VG

7.หน่วยความจำชั่วคราว : Ram 
เป็นอีกปัจจัยสำคัญของการทำงานใน Tablet PC เหมือนคอมพิวเตอร์ทั่วไป ที่จำเป็นต่อการทำงานในการประมวลผลที่รวดเร็ว ราบรื่น ซึ่งก็มีตั้งแต่ 128 MB 256 MB 512 MB จนถึง 1024 MBซึ่งถ้ามีมากขึ้นก็จะส่งผลให้ทำงานได้ ดียิ่งขึ้น 

8.ระบบเสียง
เป็นอีกสิ่งที่นับเป็นเสน่ห์สำคัญของ Tablet ซึ่งในหลายแบรนด์สามารถให้ระบบเสียงที่มีความสมจริงคมชัด ด้วยระบบที่แตกต่างกันไป อาทิ SRS Sound, แต่สำหรับความดังแล้ว คงดังพอสมควรเท่านั้น ปัจจุบันมีผู้ผลิตระบบเสียงสำหรับต่อพ่วง Tablet PC ที่เห็นมีมากที่สุดก็ใช้กับ iPad ส่วนฝั่ง Andriod ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ต่างๆ ไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้ ซึ่งถ้าหากผู้ใช้จะหามาต่อเพิ่มจะต้องซื้อชุดลำโพงโมบายแล้วต่ออกทาง ช่องหูฟัง เท่านั้น





9.หน้าจอและการแสดงผล
ส่วนนี้ถือเป็น interface สำคัญในการติดต่อระหว่าง Tablet PC กับผู้ใช้ ตัวหน้าจอจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ
1. แบบ Resistive
เป็น touchscreen ต้นทุนต่ำ ต้องใช้ของแข็งเช่น Stylus ในการจิ้มสั่งการไม่รองรับ multitouch (แต่อนาคตกำลังมี software ที่สนับสนุนให้ใช้ multitouch ได้)
2. แบบ Capacitive.
เป็นเทคโนโลยีที่มีราคาสูงกว่า Resistive รองรับการใช้นิ้วจิ้มสั่งการแบบ multitouch ที่ตอบสนองได้เร็ว




ส่วนวัสดุ มีการพัฒนาโดยใช้วัสดุที่แตกต่างกันไปอาทิ Sony จะใช้ LED-backlit IPS, ทาง Toshiba ก็ใช้ Regza Resolution ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการแสดงผลในจอทีวีของตนเอง การสัมผัสหน้าจอต้องมีจุดสัมผัสที่ครอบคลุมในทุกตำแหน่งของหน้าจอด้วย(multi touch multi point) ซึ่งในแต่ละแบรนด์จะมีการบ่งบอกคุณลักษณะนี้ อาทิ 5 point Multi Touch
นอกจากนั้นการแสดงผลก็ให้รายละเอียดที่แตกต่างกัน อาทิ
800 x 480 pixels (16:9)
1,024 x768 pixels (16:9)
1,280x800 pixels (16:10)
หัวใจสำคัญอีกประการในส่วนการแสดงผลของ Tablet PC ก็คือ ระบบ Gravity Sensor (G-Sensor) สำหรับตรวจสอบระดับและตำแหน่งแกนการใช้งานของตัวเครื่อง ไม่ว่าท่านจะใช้งานในแนวตั้งหรือแนวนอน ระบบจะทำการปรับหน้าจอมาอยู่ตำแหน่งการแสดงผลข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ Tablet PC ส่วนใหญ่ จะรองรับการ sensor 4 แกน แต่ก็มีประเภท 3 แกนก็มี ซึ่งจะมีผลให้การ sensor ทำได้ไม่ไวเท่าที่ควร

10.ซอฟท์แวร์สนับสนุน
ทั้งสองค่ายไม่ว่า iOS ของ Apple กับ Andriod ต่างให้การพัฒนา application สำหรับใช้ใน Tablet ของตนเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแบบใช้ฟรี หรือต้องจ่ายค่าใช้งานก็ตาม ณ วันนี้แม้ว่าฝั่งทาง Apple ดูจะมี App รองรับการทำงานที่มากกว่าก็ตาม แต่ด้วยการที่ Andriod เป็น Opensource ก้เป็นส่วนช่วยให้ App ของฝั่ง Andriod มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว





11.พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
จากการที่ Tablet PC มีขนาดค่อนข้างบาง ดังนั้นเพื่อประหยัดพื้นที่ หน่วยเก็บข้อมูลจึงใช้ระบบ Solid state ทั้งหมด ขนาดความจุที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะมีตั้งแต่ 8GB, 16GB, 32GB และ 64GB นอกจากนี้ยังมีการนำหน่วยเก็บความจุขนาดใหญ่แบบ harddisk มาใช้ในการเก็บข้อมูล อาทิ Gigabyte รุ่น S-1080 ใช้หน่วยเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 320 GB เลยที่เดียว

12.พลังงานและระยะเวลาการใช้งาน 
สิ่งนี้นับเป็นปัจจัยอีกประการในการพิจารณาการมีไว้ใช้ เพราะการใช้ Tablet PC ส่วนใหญ่ จะใช้งานแบบพกพา ไม่ได้เสียบสายไฟไว้ ดังนั้น Tablet PC ต้องสามารถทำงานได้ยาวนาน ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากแบตเตอรี่ภายใน ซึ่งค่าความจุพลังงานจะมีแตกต่างกันไป (ตัวเลขมาก ความจุยิ่งมากการใช้งานยิ่งยาวยาน) อาทิ 1,600 mAh, 3250mAh(ใน Lenovo), 4000mAH, 5100mAh(ใน galaxy tab7.7นิ้ว), 6100mAh(ใน galaxy tab8.9นิ้ว), 7000 mAh(ใน galaxy tab10.1นิ้ว) และในอนาคตจะมีขนาดสูงถึง 14,000 mAh(จะมีใช้ใน New iPad)
สำหรับระยะเวลาการใช้งานจะอยู่ 5 - 8 ชั่วโมง นอกจากนี้ Tablet PC ยังต้องมีระบบจัดการพลังงาน เพื่อควบคุมการใช้พลังงานใน mode ที่ระบบตรวจสอบว่าผู้ใช้ไม่ได้ใช้งานอีกด้วย